Day 1 (29 Dec 2019)
บินตรงโดยสายการบิน Royal Jordanian airline จากสุวรรณภูมิ เวลา 00.20 หลังเที่ยงคืนวันที่ 28 ถึง Queen Alia international airport ประมาณตี 5 ใช้เวลาในการ ซื้อ sim cards จัดการเรื่องรถเช่า ที่จองไว้แล้ว นัดหมายเวลา รับรถประมาณเที่ยงครึ่งเพราะ จะเช่า taxi เที่ยว Amman ครึ่งวันเช้าก่อน เพราะทราบว่าใน Amman ขับรถยาก
เช่า สองคันจาก booth taxi ใน airport จะปลอดภัยกว่าเรียกเองข้างนอก คันละ 25 JD ไปกลับ เที่ยวชมเมืองตลาดตอนเช้า ทานอาหารเช้าที่ Hashem restaurant เป็นร้านอาหารเช้าท้องถิ่นที่ดังทัวร์ชอบพามากิน ไม่แพง ดู Roman theater ที่มี folklore museum แสดงความเป็นอยุ่ของชาว jordan จากนั้นขึ้นเขาไปดู วิวเมือง และ Roman theater จากมุมบน
ชม citadel ที่เป็นเมืองเก่าบนยอดเขา มีรุปมือ Hercules จากนั้นเดินทางกลับสนามบินเพื่อไปรับรถ ช่วงที่ชมเมืองได้แลกเงินใน ร้าน western union Rate 1 US=0.7 JD ดีกว่าแลกที่ Airport
ถึง Airport รับรถจาก dollar car rent ที่จองผ่าน rental.com ได้รถ 4WD Ford Expedition เป็นรถที่ดีมาก นั่ง 5 คน สบายแต่ได้รถที่มีปัญหายางรั่วซึม แค่ขับจาก airport จะไป Jerash ไม่ถึงครึ่งชม สัญญานลมอ่อน โชว์ ต้องแวะปั๊มที่มักมีร้านยางอยุ่ด้วย เติมลม แล้วหาจุดรั่วไม่เจอ จึงไปต่อ แต่โทรแจ้ง dollar ไว้ด้วย จะรอเปลี่ยนรถก็เสียเวลา
เที่ยว Jerash ถึงเย็น ขับรถกลับลงมาที่ dead sea จองที่พักสองคืนที่ Dead sea spa hotel ก่อนเข้าโรงแรมแวะทานอาหารเย็นก่อนเข้า ร.ร.
Day 2 (30 Dec)
Enjoy dead sea floating. พอกโคลน dead sea
Day 3 (31 Dec)
ขับรถยาวลงใต้ไป เพตรา เลือกใช้ Scenic road ที่ขับยากและนานกว่าเพื่อแวะชมวิว ช่วงแรก เลียบทะเลไป โดยใช้Garmin คู่กับ google แต่ตอนถึงทางแยกที่จะตัดเข้าไป หา King highway ต้องเข้าไปตามไหล่เขา ทางใช้ได้แต่แคบมาก ดูแล้วถ้ามีรถสวนมาจะหลบกันไม่ได้ ถึงทางโค้งที่มองไม่เห็น ต้องบีบแตรตลอด แต่เส้นทางวิวสวยมาก โชคดีไม่มีรถสวนมา จากนั้นขับไปตาม king highway ขับผ่านชุมชนตามทางไป และแวะทานอาหารกลางวันระหว่างทาง ก่อนเข้าพักที่เพตรา ที่ ร.ร. La Maison ที่อยู่ใกล้ทางเข้าเพตราตอนค่ำพอดี มีที่จอดรถสามารถเดินไปได้ วันนี้ขับรถทั้งวัน ตอนจะเข้าเมือง Wadi Musa (Petra) ยางลมอ่อนอีก เข้าเติมลมไม่พบจุดรั่วอีก กินอาหารฉลองปีใหม่ ที่ My mom ‘s recipe restaurant ที่มีรายการ TV Jordan มาสัมภาษณ์ นักท่องเที่ยว (ธัญและพีช) เพราะเป็นคืน 31 ธค
Day 4 (1 Jan)
ทานอาหารเช้า 7:30 ที่โรงแรม เสร็จแล้วเดินไปเพตรา ใช้บัตร Jordan pass เข้าฟรี เดินตลอดไม่ใช้ทั้งรถม้าและลาที่มานำเสนอตลอดทาง ผ่าน the siq, Treasury จากนั้นเดินต่อทาง main trail เพื่อไปที่ Monastery เพราะมาถึง treasury ยังไม่เหนื่อย อากาศเย็นสบาย พอแดดออก ต้องถอดเสื้อหนาวกัน เดินผ่าน Royal tomb, The Theater จากนั้นเดินขึ้นเขา มีช่วงที่เป็นบันไดหินให้ เพราะทางค่อนขัางชัน ช่วงนี้จะเหนื่อยหน่อยมีการพักเป็นระยะ เพราะต้องหลบลาที่ขึ้นลงตลอด ถ้าเดินได้จะดูปลอดภัยกว่า ถึง Monastery ก็คุ้มค่าเพราะใหญ่กว่าแม้ลวดลายจะน้อยกว่าสีหินไม่แดงเท่า Treasury แต่ก็มีมุมสุงให้ถ่ายรูปสวยๆได้ ไม่เหมือนTreasury ถ้าจะถ่ายมุมสูงต้องปีนด้านข้างโดยจ้างคนนำ หรือเดิน al khupta trail ที่ยาก และไกล ที่จุดนี้ แวะทานข้าว ที่เตรียมมาจากไทย อาหารสำเร็จ ไม่ต้อง อุ่นร้อนก็อร่อยมาก ได้จุดนั่งทานสวยมากในโพรงตรงเนินเขาหน้าMonastery ชมวิว Monastery ไปด้วย ช่วงเดินทางกลับ แวะชม Royal tomb ที่เป็นต้นทางของ Alkupta trail ไปดู treasury มุมสูง แต่หยุดแค่ Royal tomb ไม่ไปต่อ ช่วงกลับเริ่มเมื่อยกันมากกินอาหารเย็น buffet ใน ร.ร. คนละ10 JD ถูกและคุ้มกว่าที่ร้านดังในเมือง คืน 31 DEC.
Day 5 (2 Jan)
ขับรถไป Wadi rum ใช้เวลา ประมาณชม ครึ่ง เป็นทางลงใต้ทางไป Aquaba ที่อยู่ชายแดนติดอิสราเอล ที่เป็นเมืองชายทะเลและปลอดภาษี แต่ คณะเราไม่ได้ไปเพราะคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจมาก ระหว่างทางก่อนถึงทางแยกเข้า Wadi rum ลมยางอ่อนอีกต้องแวะเปลี่ยนยางอะไหล่มาใช้ ที่ร้านข้างทางเสียไป 2 JD และโทรแจ้งให้บริษัทนำรถมาเปลี่ยนที่ โรงแรมใน Wadi rum เพราะมีสาขารถที่ Aquaba อยู่ไม่ไกล
จากนั้นขับรถไปโรงแรม Desert planet camp ซึ่งอยู่ทางแยกไปทางซ้ายก่อนถึง visitor center โรงแรมเป็น Camp กระโจม มี heater และห้องน้ำในตัว ดูดี ทานอาหารกลางวันที่สั่งต่างหากให้เขาจัดให้ 50 JD 5 คน (ไม่ถูก) ช่วงบ่าย ซื้อ Jeep tour 45 JD 2 ชม ดู Sun set แต่ไม่เห็น landmark ที่เขาเที่ยวกัน เพราะอยู่ก่อน visitor center ตกเย็นบริษัทนำรถแบบเดิมมาเปลี่ยนให้ ได้หัดการขับ 4 wheel ในทะเลทราย โดย Mohamad จนท.โรงแรมช่วยสอนให้
Day 6 (3 Jan)
หลังอาหารเช้ามีเวลาเลยขับรถไปที่ visitor center จึงได้ข้อมูลมากมาย ว่าสามารถขับรถเข้าไปเองได้ถ้าเป็น 4WD เสียค่าผ่าน 20 JD/ คน กลุ่มเราไม่เสียเพราะใช้ Jordan passได้ขับเข้าถึงหมู่บ้านหา guide สมัครเล่นให้นำทางได้ บังเอิญได้คนที่ขับรถเป็นด้วย ดีกว่าขับเอง แต่พุดEnglish ได้น้อยมาก ต้องใช้google translate แต่การเที่ยว wadi rum สามารถเที่ยวได้ทั้งวัน guide ก็สนุกมากพาไปทุกที่จนทุกคนหิวข้าว ได้เห็น land mark สำคัญครบ เช่น Red sand dune, Um Fruth rock สะพานหินที่เป็น Land mark of wadirum. Little rock bridge etc. ทำให้รู้ว่า ถ้าหาที่พักข้างในได้จะดีกว่าที่เราพักด้านนอก แม้เป็นทะเลทรายเหมือนกัน ที่พักที่ little rock bridge ที่เห็นอยู่จะน่าสนใจที่สุด เพราะได้เข้ามาข้างในเลย และอาจเที่ยวเองได้ แต่ควร down load google maps off line ไว้ ถ้ามี 4 WD และโรงแรมก็จะมานำทางตั้งแต่ visitor center เลย ถ้าที่พักอยู่ด้านในน่าจะขับรถเองได้ แต่ใช้คนท้องถิ่นมากับรถเราก็เร็วดี ทั้งวันแค่ 20 JD
ตอนบ่ายหลังอาหารกลางวันใน จุดพักรถ ใน wadi rum ขับรถกลับไปที่พักที่Little Petra Beduin camp ที่เราจอง Big cave Tent ไว้ ถ้ำกว้างอยูได้ถึง 6 คนสบาย โดยที่ booking.com ให้ขนาดไว้ผิด ต้องเป็น 3x3 m OR 3x4 m ไม่ใช่แค 3 ตารางเมตร ในข้อมูลจอง ไม่หนาวมากอย่างที่กลัวกัน ห้องน้ำ รวมเดินไม่ไกล กลางดึก ยังลุกไปเข้าห้องน้ำกันได้ มีน้ำอุ่นด้วย ห้องน้ำสะอาดมากๆ
Day 7 (4 Jan)
แวะเที่ยว little petra ที่เล็กกว่าเพตรามาก ไม่มีสิ่งก่อสร้างน่าสนใจอะไร แค่ชมวิวและภูเขาทราย ที่สวยงามเท่านั้น เที่ยว 1-2 ชม ก็หมดแล้วขับรถกลับทาง desert highway ที่ขับสะดวกมากใช้เวลาน้อยกว่า แต่ไม่มีจุดชมวิว แม้กระทั่งร้านอาหารก็หายาก เพราะไม่ผ่านเมือง จะกินอาหารต้องขับแยกออกจากถนนหลัก ถึงจะเจอเมือง ควรจะแวะจุดท่องเที่ยว ริมทาง ที่อยูไม่ไกล กว่าจะเจอเมืองบนทางผ่านก็ใกล้ อัมมันแล้ว แวะทานอาหารคล้ายkebab แล้วเดินทางเข้าที่พัก Mosaic city hotel กลางเมือง Madaba ตอนเย็นออกไปเที่ยวโบสถ์ที่มี Mosaic แผนที่ แต่ Jordan pass ใช้ที่เมืองนี้ไม่ได้เลย จึงไม่เข้า ไปอีกโบสถ์ขึ้นหอระฆังชมเมือง และดูหลุมศพใต้โบสถ์ จากนั้นกินอาหารร้านดังที่สุดในเมือง Haret Jdoudna ดูหรูร้านใหญ่คนเยอะ อาหารธรรมดา ก่อนไปร้านอาหาร ออกจากโบสถ์ขับรถเฉี่ยวถังขยะใหญ่ข้างถนน มีรอยขีด ให้ทางโรงแรมแจ้งตำรวจแต่การไม่มีคู่กรณี ทำให้ประกันที่มากับรถไม่ครอบคลุม ต้องเสียส่วนแรก แม้เราทำประกันครอบคลุมทั้งหมด (Full coverage) จาก rentalcar.com ก็ตาม โชคดีที่ทำ full coverage ไว้ค่าประกันจ่ายเพิ่มจากค่ารถประมาณ 500++/วันซึ่งถูกกว่าทำกับบริษัทรถเอง แต่เพราะไม่มีคู่กรณี ต้องจ่ายก่อนแล้วกลับมาเบิกคืน
Day 8 (5 Jan)
ตอนเช้าขับรถไปเที่ยวmount Nebo ดูไม้เท้า โมเสส และชมวิวชายแดนจอร์แดน อิสราเอล และเดดซี หมอกเยอะไม่ชัดแม้ใช้กล้องส่องทางไกล แล้วกลับมาสนามบิน คืนรถเสียค่าซ่อม120 JD กลับมาเบิกคืนกับ Rentalcovers.com ได้ทั้งหมด
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคนรวม ประมาณ 52,000 บาท include economy air fare แต่ขาไป ใช้ go crown bid ราคา ก่อนเดินทาง สองวัน ได้business classจ่ายเพิ่มคนละ 12,000 บาท
Comments