Croatia เป็นประเทศยุโรปตะวันออก ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก เป็นประเทศเล็กๆแต่มีสถานที่ที่เป็นมรดกโลกถึง 7 แห่ง trip นี้เราได้เที่ยว 5ใน 7 มรดกโลกของCroatia ขาดเพียง 1.1 และ 1.5 เท่านั้นบวกกับหนึ่งมรดกโลกของ Montenegro ช่วงสงกรานต์ที่เป็นวันหยุดยาวของบ้านเราเป็นช่วงที่เริ่มพ้นจากหน้าหนาวเข้าสู่ spring ของ Croatia อากาศกำลังสบายยกเว้นบริเวณ Plitvice national park เท่านั้น ที่ยังอาจมี snow อยุ่บ้าง ส่วนเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆทั้งหมดอากาศกำลังดี และยังไม่เข้าhigh seasonของเขาทุกอย่างยังไม่คับคั่งมาก อาหารและโรงแรมยังไม่แพงมาก นับเป็นช่วงที่น่าเที่ยวเหมาะกับคนไทยมาก
การเตรียมตัว
Visa สามารถใช้ได้ทั้ง Croatia และ Schengen visa ชนิด multiple entry ที่สามารถเข้า Montenegro ได้ การเดินทางมีเครื่องบินไปCroatia airport ได้ทั้งZagreb and Dubrovnik คนที่เลือกขับรถมักเลือก ไปกลับคนละสนามบิน โดยการคืนรถต่างที่มีค่า charge ไม่ใช่ไม่มีตามที่ชอบบอกกัน จึงเลือกเช่ารถจาก Zagreb และคืนที่เดิม เนื่องจากดูแล้วประเทศนี้ไม่ใหญ่มาก ถ้าขับตรง จาก Zagreb มาDubrovnik ใช้เวลาแค่5 -6 ชม เท่านั้น ถ้าวางแผนเที่ยวดี ๆสามารถขับไปกลับ โดยเที่ยวต่างที่กัน ไม่เดินทางซ้ำซ้อนกันได้ การวางแผนเที่ยวใน tripนี้ที่เดินทางกันสามคน (ลูกสาวสองดน) วางแผนการเดินทางต่างจาก คนส่วนใหญ่ โดยบินการบินไทยไปลงVienna แล้วใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับของ Day trip โดยจองก่อนจ่ายเงินภายหลังให้คนขับโดยตรง เพื่อจะได้ชมวิวระหว่างทาง โดยไม่ต้องเหนื่อยขับรถทางไกล หลังจากลงเครื่องทันที ดูแล้วถูกกกว่าต่อเครื่องจากVienna มา Zagreb ที่สำคัญเครื่องที่ต่อต้องรอนาน จะบินมาถึงZagreb ตอนค่ำ เสียเวลาไปหนึ่งวัน และtrip นี้ไม่มีแผนจะเที่ยว Zagreb เลย ถ้ามารถยนต์จะถึงZagreb บ่าย เร็วกว่า route อื่น ๆ
เงินค่าใช้จ่าย :ควรแลกเงิน Euro เตรียมไว้ให้พอค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไปแลกเป็นเงิน Kunar ในเมืองหรือ ธนาคารเป็นครั้งๆไป จะดีกว่าแลกที่สนามบิน ค่าทางด่วนในCroatia ถ้าเงิน Kunar หมด ก็สามารถจ่ายด้วย Euro แทนได้
Day 1
ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ โดยการบินไทย 01:20 น. วันที่ 14 เมย ถึง Vienna airport by 7:15 amวันเดียวกัน. .คนขับรถของDay trip ที่นัดไว้มารอรับที่ ทางออกเราสามารถโทรติดต่อทันทีที่ถึงVienna เพราะมี WhatsApp คุยกันตั้งแต่ก่อนเดินทาง นั่งรถชมวิวสบายๆระหว่างทาง แวะทานอาหารเที่ยงที่ด่านตรวจpassport ทางบก ก่อนเข้า Croatia เป็นจุดพักรถใหญ่สะดวกมาก เมื่อถึง Zagreb ให้คนขับพาไปหาที่แลกเงินKunar ในตัวเมือง 1 Euro ได้ 7.4 Kunar ดีกว่าแลกที่อื่นทั้งหมดใน trip นี้ จากนั้นไปรับรถที่airport ตรงเวลาที่นัดไว้ 14:00 น แต่ออกรถ 15:00น เพราะตั้งใจคืนรถ15:00 น. วันสุดท้าย โดยเช่าผ่าน rental car.com ได้ รถของAvis จากนั้นขับรถออกจาก airport ตรงไป Plitvice national park โดยใช้ local road ตามคำแนะนำของคนขับรถจาก Vienna ที่บ้านอยู่ Zagreb ก่อนถึงZagreb ใกล้ค่ำ แวะทานมื้อเย็นร้านอาหารที่เมืองก่อนจะถึงเพราะคิดว่าเข้า national park ค่ำอาจหาทานยากถึงที่ guest house Vada ที่จองผ่านbooking.com อยู่ใน park ใกล้ Entrance 2 แต่ต้องขับเลยไปและแยกเข้า ถนนเล็กออกไปอีกแต่ไปตามgoogle map ได้ช่วงนี้ที่Zagreb อากาศเย็นสบาย แต่แถวpark ยังหนาวมีsnow ตามทางจนถึง รอบที่พัก ที่นี้พักอยู่สองคืน เพราะตั้งใจจะเที่ยวPlitvice เต็มวัน
Day 2
ตื่นเช้าทานบะหมี่เป็นอาหารเช้า ในห้องพัก แล้วขับรถไปจอดที่parking หน้าgate 1 ซื้อบัตรเข้า Plitvice ตามที่วางแผนไว้เลือก route B ทีแรกคิดว่าอากาศจะไม่ดีมีหมอกมาก แต่หลังเดินเข้าไป หมอกจางลง เห็นpark และlakeที่สวยงามตามต้องการ Route B จะเดินลงล่างไปที่lakeก่อน ไปดู The big water fall และชมlake เดินประมาณ3-4 km ไปถึง P3 เป็นpicnic area ทานอาหารกลางวันที่เตรียมมา แล้วลงเรือมาที่P1 แล้วขึ้นรถbusจากS2 ซึ่งอยู่ที่gate2 กลับมาที่S1แล้วเดินตอนบนเขามองเห็นเส้นทางเดินเลียบlakeด้านล่างที่เราเดินผ่านมาเพื่อจะกลับมา gate 1 ที่จอดรถไว้ ( Sในแผนที่แสดงตำแหน่งสถานีรถบัสที่วิ่งบนสันเขา P แสดง ตำแหน่งท่าเรือเชื่อม lake ด้านล่าง… ดูรูปแผนที่parkประกอบ ได้จากweb ) บนทางเดินบนเขา จะผ่าน cape Supljala ที่เป็นทางเชื่อมลงจากสันเขาลงไปที่ทางเดินด้านล่างได้ ซึ่งช่วงเช้าได้เดินขึ้นบันไดในcaveนี้ ปีนขึ้นมาประมาณ 200เมตรขึ้นมาถึงจุดนี้ตั้งแต่ตอนแรกครั้งหนึ่งแล้วแต่ที่ด้านบนมีป้ายกั้นไม่ให้ลง จึงมักไม่มีคนลงจากตอนบนโดยตรง ส่วนใหญ่คนจะขึ้นจากข้างล่างจะออกมาได้ ประมาณบ่ายสอง มีเวลาเหลือจึงถาม informationเรื่องที่เที่ยวใกล้ๆ เขาแนะนำ Barac cave ขับรถไป 10กว่ากิโล เที่ยวcave ที่ไม่ใหญ่มากแต่มีโครงกระดูก cave bearอยู่ข้างในเป็นหมีที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ขนาดใหญ่กว่าหมีgreasy bearในปัจจุบัน จากนั้นกลับมาทานอาหารเย็นที่ Dejenija restaurant อยู่ในร.ร. ซื่อเดียวกัน เป็นร้านดังในย่านนี้ จากนั้นเข้าที่พัก
DAY 3
Check out 9:30น ขับรถไปเที่ยว KRKA national park ใกล้เที่ยงถึงparkมีที่จอดรถฟรี บัตร100 kunar มีรถบัสฟรี เข้าpark ระยะทาง900เมตร ถึงบริเวณน้ำตก ที่มีหลายจุด เขาจัดทำทางเดินเป็นไม้ ให้ชมน้ำตกได้ทุกมุม สวยงามมาก แต่เล็กกว่า Plitvice มาก ออกจากpark ขับรถไป Sibenik แวะSuper ซื้อของและ ทานอาหารกลางวัน อย่างง่ายๆ เพื่อประหยัดเวลา ในการขับรถตรงไปDubrovnik ที่ใช้เวลาประมาณ 4+ ชม. แต่ต้องเผื่อเวลาพักเป็นระยะ ในจุดชมวิวสองข้างทางที่สวยมาก เพราะเป็นการขับรถเลียบชายฝั่งทะเลเกือบตลอด หลังจากผ่านเมือง ทางแยกเข้า Split จะต้องขับเข้าไปในประเทศ Bosnia ผ่านด่านตรวจที่เหมือนด่านเก็บเงินบนทางด่วน แต่ต้องประทับpassport โดยไม่ต้องลงจากรถ เมื่อขับไปอีกระยะ จะมีด่านตรวจตอนเข้าCroatia บนถนนเส้นเดียวกันอีก ถึงDubrovnik.ใกล้สองทุ่มเพราะแวะจุดชมวิวบ่อย จึงแวะทานอาหารทะเล ก่อนเข้าเมืองเพราะจอดรถง่าย ใช้ google map หาร้านอาหารทะเลได้ไม่ยาก จากนั้นเข้าที่พักที่ Kate’s place เป็นapartment ที่เจ้าของแบ่งห้องให้พัก ได้ห้องsea view มีระเบียงสวยงามแต่เล็กไปนิด สำหรับสามคน เจ้าของอธิบายการท่องเที่ยวและทางเดินไปเที่ยว old town จากที่พัก เดินไกลพอควรแต่เป็นทางเดินลงเขาส่วนใหญ่
Day 4
เดินไปเที่ยว old towns หนึ่งในเป้าหมายหลักของการตามรอย games of throne ซึ่งตลอดtrip นี้ได้ภาพตามฉากหลายจุดทั้งที่Dubrovnik, split และ Sibenik ควรซื้อตั๋วที่visitor centerที่อยุ่ ก่อนเข้า Pile gate ราคา 20 Kunar เพราะรวมค่าขึ้น wall กับได้นั่งรถเมล์ในเมืองฟรี ถ้าไปซื้อบัตรขึ้น Dubrovnik wall ด้านใน ก็ราคา 20 Kunar เท่ากัน
การเที่ยว old town ถ้าไม่ขึ้นwall คือการเดินบนกำแพงเมืองแล้ว จะเหมือนไม่ได้มา ทางขึ้นอยู่ทางซ้ายมือหลังจาก ผ่านประตุเข้ามาทางpile gate จะเห็นคนเข้าแถว รอซื้อตั๋วขึ้นwall ราคา 20 Kunar เท่ากัน แต่มี pass จากvisitor centerแล้วไม่ต้องรอคิว นำpass ไปแลกบัตรขึ้นชม wall ได้เลย บัตรนี้ผ่านขึ้นแล้วต้องเก็บไว้ อย่าเพิ่งทิ้ง เพราะจะต้องใช้ตอนไปขึ้น Fort Lovrijenac ที่อยู่ด้านนอกฝั่งตรงข้ามอ่าวเล็กๆเดินออกประตู pile gateและมองกลับมาที่old town ได้ ที่นี่ก็มีจุดที่ถ่ายgames of throne เหมือนกัน แต่น้อยกว่าในold town ทานอาหารกลางวัน ในold town ตอนเย็นกลับเข้าที่พัก เตรียมขับรถไปview point เพื่อชมเมือง dubrovnikช่วงsun set ที่มีcable car ขึ้นไป เพราะรู้ว่าขับรถขึ้นไปได้ ไม่ต้องเสียค่าขึ้นกระเช้า ทางขึ้นแยกจากถนนที่ไปสนามบินเลย สถานีcable carมากพอควร แต่เป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ทางแคบ สวนกันยาก ที่สำคัญไหล่ทางแคบและต่ำกว่าระดับถนน พอขับขึ้นไป เกิดขับตกออกจากไหล่ทางล้อเหยียบบนก้อนหินที่คมมาก ทำให้ยางแตก ไปรู้เมื่อถึงจุดจอดรถหลังสถานีcable car บนเขา โชคดีเกิดเหตุตอนใกล้ถึงที่จอด เวลานั้นเริ่มจะsunset แล้ว คนส่วนใหญ่จะขึ้นมาดูsunset แต่เกิดเหตุต้องเรียก road side assistance ของ Avis มาช่วยเป็นครั้งแรกในการเช่ารถขับต่างประเทศ ยังนึกเลยว่าจะนำรถเราลงไปอย่างไร แต่เขามีรถยก รถเราขึ้นท้าย แล้วขับลงมาด้วยความชำนาญและรวดเร็วมาก นำรถไปส่งที่อู่ แล้วส่งคณะเราถึงที่พักโดยปลอดภัย ให้เราไปรับรถที่อู่ตอนเช้า จบการผจญภัยที่ตื่นเต้นกับการเช่ารถขับไปอีกครั้งหนึ่ง
Day 5
ไปรับรถที่อู่เปลี่ยนยางเส้นใหม่เรียบร้อย ทานอาหารกลางวันร้านใกล้อู่ก่อนรับรถ แล้วขับต่อไปเที่ยว เมือง Kotor ,Montenegroที่เป็นเมืองมรดกโลก ตัวเมืองมีอ่าวเล็กๆยื่นเข้ามาหลายแห่งเหมือนFjord อยู่ไม่ไกลจากMotenegro ปกติขับรถชม. กว่าๆน่าจะถึง แต่ช่วงที่ไปมีการก่อสร้างปิดถนน รถติดนาน แถมการตรวจpassport ยังใช้เวลานานทำให้ไปถึง Kotor เย็นแล้ว ตั้ง google mapไปที่ old town parkings พาไปถึงที่จอดรถ ริมอ่าวหน้าold town เลย เข้าไปเที่ยวใน old town ด้านล่างเหมือน Dubrovnik แต่Wall ใหญ่กว่ามากๆ มองจากด้านล่างแล้วไม่คิดว่าจะขึ้นไปถึงได้เพราะดูยาวไกลไต่ไปบนเขาเหมือนกำแพงเมืองจีน คนที่มาก็ไม่ได้ขึ้นไปมากเหมือนDubrovnik ต้องสอบถามทางถึงรู้ว่าขึ้นไปอย่างไร ทางขึ้นไม่มีลักษณะให้รู้ แต่เมื่อเดินจะเริ่มขึ้นเขาจะมีคนเก็บเงินนั่งอยู่ ค่าขึ้นจำได้ว่าแพงกว่าDubriovnik เดินขึ้นเขาไปน่าจะ 2-3 กม. ได้ ดูความสูงได้จากรูป หลังขึ้นแล้วจะรู้สึกว่าคุ้มค่ามากกับวิวสูงบนเขา มีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาพร้อมกันประมาณ 20 คนได้
ลงจากยอดเขาก่อนที่จะมืด มาทานอาหารที่ร้านอาหารริมอ่าว หน้า old town ขับรถกลับที่พักที่ Dubrovnik
Day 6
ทำอาหารเช้าทานกันในห้องพัก แล้วออกจาก Kate’s place 10 น. ขับกลับทางเดิมผ่าน Bosnia แต่เที่ยวนี้แวะเข้า เที่ยว split อีกหนึ่งเป้าหมายหลักในการตามรอยGames of throne เข้าพักที่จองไว้คือ Apartment Tudor เป็นapartment ชั้นดีที่อยู่กลางเมือง ใกล้หาด และมีที่จอดรถ ที่จองเพราะรุปมี sea view balcony แต่เป็นการเข้าใจผิดเพราะราคาที่จองเป็นRoom with terrace
ไม่ใช่sea view balcony ราคาต่างกัน ตอนแรกจะเปลี่ยนห้องโดยยอมเพิ่มราคา แต่พอเข้าดูห้องแล้วพอใจมาก เพราะ เป็นเหมือน town house ส่วนตัวมีประตูรั้วติดถนน เฉพาะห้องเราเปิดเข้ามาจอดรถหน้าห้องได้เลย ขนาดห้องก็กว้างขวาง มีครัวครบชุดดีกว่า Kate’s placeมาก เหมือนบ้านส่วนตัวกลางเมือง ทานอาหารกลางวันที่ร้านใกล้ๆ แล้วขับรถไปold towns ได้ที่free parking ใกล้ ๆต้องเดินต่ออีกระยะหนึ่ง เที่ยวดู land marks ต่างๆในold towns เช่น Jupiter temple ที่มี sphinxes อยู่ด้านหน้า เพราะ old town of Diocletian Palace นี้ สร้างโดยกษัตริย์ Egypt ที่คิดจะใช้อยู่หลัง retire มี Piazza, or People’s Square อยู่ด้านหน้า และ ตามหาlet me pass street ที่เขาบอกว่าเป็นถนนที่แคบที่สุดในโลก อยู่นาน ที่แท้ก็เป็นทางเดินแคบ ๆอันหนึ่งระหว่างตึกใน old towns เป็นช่วงสั้นๆเหมือนช่องว่างระหว่างอาคารเท่านั้นเดินคนเดียวสบาย แต่สองคนจะต้องเบี่ยงตัวหน่อย จึงเป็นที่มาของชื่อหลอกนักท่องเที่ยวให้มาดู ออกจาก old towns ค่ำแล้ว ซื้ออาหารทะเลมาทำอาหารเย็น ให้คุ้มกับห้องครัวใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบ
Day 7
หลังอาหารเช้าในห้อง ขับรถไปเมืองKris ที่อยู่ใกล้ๆ ไปดู Fortress of Kris ที่เป็นเมืองของDaenerys Targaryenธิดามังกร ในGames of thrones ได้รูป ตามรอยสมใจ Fortress of Kris นี้อยู่บนยอดเขาสูง ทำเลดีมากไม่มีใครสามารถตีได้นอกจาก Ottoman from Turkey. แต่มีเส้นทางถนนดีสามารถขับรถมาถึงทางเดินขึ้นได้เลย บัตรผ่านประตูเขามีบริษัทขาย ผลผลิตพื้นเมือง เชิญชวนให้ไปชิมอาหารว่างและชมการสาธิตการทำอาหาร พร้อมกับขายสินค้าด้วย ไปชมแล้วน่าสนใจดี น่าชื่นชมการนำงานของเขามาผูกกับบัตรการขึ้น fortress ทำให้คนมาชมสินค้าเขาได้ดูดเงินนักท่องเที่ยว ออกจาก Kris มุ่งหน้าSibenik ผ่านต้นมะกอกเก่าแก่ที่สุด อยู่มานานกว่า`1500 ปีที่คนที่ร้านแนะนำเพราะเป็นทางผ่าน เขาต้องการแสดงว่าย่านนี้เป็นแหล่งผลิตน้ำมันมะกอก ที่เก่าแก่มานานซึ่งก็น่าจะเป็นได้ เพราะสองข้างทาง มีแต่ต้นมะกอกเต็มไปหมด
จากนั้นขับรถเข้า Sibenik แค่ไปถ่ายรูปด้านหน้า Cathedral of St James มรดกโลกอีกแห่งเท่านั้นไม่ได้เข้าชม เพราะหาที่จอดรถไม่ได้ จากนั้น มุ่งหน้าไปที่พักคืนสุดท้ายที่ Zadar ขับเลียบทะเลไปผ่าน เมือง Trogir ที่เป็นเกาะเล็กๆติดแผ่นดินใหญ่โดยมีสะพานสั้นๆเชื่อมไว้ทั้งคนและรถข้ามไปได้ ขับข้ามสะพานไปจอดรถ ทานอาหาร Sea food ร้านKnoba Trs ที่แนะนำโดย Trip adviser แต่เขาแจ้งว่าเลิกทำอาหารset ที่ต้องการแล้วเพราะใช้เวลาทำนานมาก เลยสั่งอาหารsea food อื่นมาทาน รสชาติ Ok หลังอาหารเดินเที่ยวในold town ไม่นานก็ทั่วเพราะเมืองเล็กแต่ได้เป็นมรดกโลกในฐานะที่เป็นเมืองเก่าที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริงต่อเนื่องมาตลอดไม่ได้ถูกทำลายโดยสงครามหรือภัยธรรมชาติเหมือนเมืองอื่น ๆ จากนั้นขับรถไปเข้าที่พักที่ apartment Iva ที่เมืองZadar ถึงประมาณสองทุ่ม เป็นบ้านเดี่ยวมีบริเวณเหมือนอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร เก่าแต่สะอาดและกว้างขวางเครื่องครัวใหญ่ครบครัน จึงออกไปซื้ออาหารที่supermarket ใหญ่ใกล้ๆได้ salmon และ หอยเชลล์ยักษ์ มาอบทานโดยสองแม่ครัวสาว อิ่มอร่อย ตามสูตรที่ค้นจาก google
Day 8
วันสุดท้ายตอนเช้าเข้าเมืองไปดู Sea organ ฟังเสียงน้ำทะเลกระทบฝั่งและแผ่นคอนกรีตที่สร้างยื่นลงในทะเลป็นเสียงOrgan ดังเบาตามขนาดคลื่น เป็นของดังของเมืองนี้สร้างขึ้นโดยสถาปนิก Nikola Basic เปิดให้ชมตั้งแต่ 15 เมย 2005
หลังจากนั้นขับรถยาวขึ้นทางด่วนเพื่อประหยัดเวลาไปที่ Zagreb airport คืนรถตรงเวลา บ่ายสาม บินกลับโดย Singapore airline via Frankfurt ส่งลูกสาวลง singapore 1 คน จากนั้นกลับถึงสุวรรณภูมิ 19:00 น วันที่21 เมย.
Comments